วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เกม ปริศนาสุภาษิต คำพังเพยไทย (Guessing Idiom Game)

เกม ปริศนาสุภาษิต คำพังเพยไทย


วัตถุประสงค์การเรียนรู้
     เมื่อผู้เรียนเรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง สุภาษิตและคำพังเพยไทย จบแล้ว ผู้เรียนสามารถ:
1.      บอกชื่อสุภาษิตและคำพังเพยไทยจากรูปภาพได้ถูกต้อง
2.      อธิบายความหมายของสุภาษิตและคำพังเพยไทยจากรูปภาพได้ถูกต้อง
3.      เปรียบเทียบสุภาษิตและคำพังเพยไทยกับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง

วัตถุประสงค์ของเกม
     1. เพื่อให้ผู้เล่นเกิดความสนุกสนานในการเรียนเรื่อง สุภาษิตและคำพังเพยไทย
     2. เพื่อให้ผู้เล่นฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม รับฟังและยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น  ในขณะที่เรียนรู้เกี่ยวกับสุภาษิตและคำพังเพยไทย
     3. เพื่อให้ผู้เล่นสามารถบอกสุภาษิตและคำพังเพยไทยได้ตามเวลาที่กำหนด
          4.  เพื่อให้ผู้เล่นรู้จักการเคารพกติกา

ประโยชน์ที่ได้รับ
1.                  1.    ผู้เล่นได้รู้ความหมายของสำนวนไทย
2.      ผู้เล่นได้ฝึกไหวพริบปฏิภาณ
3.      ผู้เล่นได้ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม


กลุ่มเป้าหมาย  
      นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ห้อง 1 จำนวน 26 คน

อุปกรณ์ในการเล่นเกม
1.                 1.   ป้ายแสดงภาพสุภาษิตคำพังเพย
2.      ตัวเลขติดป้าย
3.      กล่องใส่ป้ายภาพสุภาษิตคำพังเพย
4.      กระบอกเซียมซีจับฉลาก
5.      บัตรเฉลยคำตอบ
6.      บัตรบอกความหมายของสุภาษิตคำพังเพย
7.      กระดาษสำหรับเขียนคำตอบ
8.      บอร์ดเขียนคะแนน
9.      นาฬิกาจับเวลา

กติกาการเล่น
     1.เวลาในการดำเนินการเล่นเกมทั้งหมด ๓๐ นาที
     2.แต่ละทีมมีเวลาเล่นเกมทายภาพและเขียนคำตอบภาพสุภาษิตคำพังเพยลงกระดาษที่ให้ 1 นาที   เสร็จแล้วคว่ำกระดาษ
     3.ครูช่วยชี้นำใบ้คำขึ้นต้น หรือช่วยบอกความหมายหากไม่มีผู้ใดตอบได้
     4.ในการเขย่าเซียมซีเลือกหมายเลข ถ้าเซียมซีหล่น 2ไม้ต้องเขย่าใหม่ (ใช้วิธีจับเซียมซีแทนการเขย่าได้)
     5.การนับคะแนน นับจาการทายสุภาษิตคำพังเพยแต่ละข้อได้ถูกต้อง หากทายสุภาษิตคำพังเพยถูกต้องครบถ้วนจะได้รับ 2 คะแนน  หากทายถูกเพียงบางวรรคหรือบางส่วนจะไม่ได้รับคะแนน (การนับคะแนนไม่นับที่การบอกความหมายของสุภาษิตคำพังเพย)
     6.ทีมที่ได้คะแนนสูงสุดเป็นผู้ชนะ

บทบาทผู้สังเกตการณ์
                1. ทำหน้าที่ดูว่าผู้เล่นทำถูกต้องตามกติกาและมีหน้าที่แจ้งกรรมการเมื่อพบการผิดกติกา
                2. สังเกตพฤติกรรมผู้เล่นพร้อมทั้งจดบันทึกพฤติกรรม

บทบาทผู้เล่น   
1.      ผู้เล่นแต่ละทีมส่งตัวแทนเขย่าเซียมซีเลือกหมายเลขภาพสุภาษิตคำพังเพย
2.      ผู้เล่นแต่ละทีมปรึกษาหารือ ช่วยคิดสุภาษิตคำพังเพยจากการดูภาพ
3.      ผู้เล่นเขียนคำตอบลงกระดาษคำตอบ
4.              ผู้เล่นทำความเข้าใจในความหมาย ด้วยการตอบคำถามและการซักถาม

บทบาทกรรมการ
              1. จับเวลาในการเล่นและการทายสุภาษิตคำพังเพย
2. ตรวจคำตอบแต่ละข้อ ให้คะแนน และรวบรวมคะแนน
3. สังเกตผู้เล่นให้ทำตามกติกาและขั้นตอน

วิธีการเล่นเกม
ขั้นนำก่อนการเล่นเกม
             1.   ทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
                      2.   ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆละ 5 คน   ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มละ 1 คน เพื่อเป็นกรรมการ
3.     กรรมการจัดการเรียงลำดับกลุ่มผู้เล่นให้เป็นกลุ่มที่ 1 – 5
4. ให้กรรมการส่งมอบเซียมซีให้ตัวแทนผู้เล่นกลุ่มที่ 1  ทำการเขย่าเสี่ยงเลือกเลขประจำภาพสุภาษิตคำพังเพยไทย   และกรรมการจะหยิบภาพตามหมายเลขออกมาเพื่อให้ทาย
                       5.  สมาชิกทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการเล่นเกมส์
                  6.   แต่ละกลุ่มมีเวลาภายใน 1 นาที ใครตอบถูกต้องมากที่สุดและทันเวลาเป็นผู้ชนะ
ขั้นเล่นเกม
      1.  แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
    2. กรรมการส่งมอบเซียมซีให้ตัวแทนผู้เล่นกลุ่มที่ 1  ทำการเขย่าเสี่ยงเลือกเลขประจำภาพสุภาษิต คำพังเพยไทย   และกรรมการหยิบภาพตามหมายเลขออกมาเพื่อให้ทาย
    3. กรรมการสามารถช่วยบอกใบ้คำแรกของสำนวนสุภาษิตคำพังเพยให้ และอาจบอกใบ้ความหมายอีกหากไม่มีผุ้เรียนใดตอบได้
    4. ผู้เล่นในกลุ่มปรึกษาหารือกัน เพื่อเขียนสำนวนสุภาษิตคำพังเพยให้ตรงกับภาพลงในกระดาษคำตอบ โดยใช้เวลา 1 นาที   กลุ่มที่เขียนเสร็จแล้วให้คว่ำกระดาษไว้
     5.กรรมการตรวจคำตอบ และให้คะแนนแต่ละทีม
     6.ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละทีมบอก หรือซักถาม เกี่ยวกับความหมายของสุภาษิตและคำพังเพยนั้น
     7.เริ่มทำการเขย่าเซียมซีเพื่อเลือกภาพต่อไป
     8.ใช้เวลาในการดำเนินการเล่นเกมทั้งหมด 30 นาที 
     9.กรรมการตรวจคำตอบ รวมคะแนนแต่ละทีม สรุปหาผู้ผู้ชนะ และประกาศผล
ขั้นสรุปเกม
 1. ครูให้นักเรียนเลือกรูป 5 สำนวนสุภาษิตคำพังเพยไทยที่นักเรียนชอบ  และให้แต่ละกลุ่มพูดบอกสุภาษิตคำ            พังเพยนั้น              
        2. ครูถามนักเรียนถึงประโยชน์ที่ได้จากการเล่นเกม และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง
        3. ทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post -Test)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น